tidpaknews หนึ่งเฟรนไชส์หนังสุดคลาสสิกที่ไม่ยอมล้มหายตายไปได้ง่าย ๆ ที่ยังพยายามมองหาลู่ทางและช่องในการสานต่อลมหายใจได้อยู่เรื่อย ๆ กลับมาหนนี้ก็แบกรับความกดดันที่หวังจะมีโอกาสได้สานต่อเป็นไตรภาคใหม่ หลังจากที่ไตรภาคที่แล้วเขาทำเอาไว้ได้ดีเหลือเกิน คัมแบ็กมาใน “Jurassic World Rebirth จูราสสิค เวิลด์: กำเนิดชีวิตใหม่” การจุดประกายไฟแห่งวังวนผจญโลกไดโนเสาร์ครั้งใหม่ที่ยังน่าตื่นตาเหมือนเคย

Jurassic World Rebirth

5 ปีหลังจากเหตุการณ์ไดโนเสาร์อุบัติออกมาสู่โลกกว่าง แต่บัดนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าระบบนิเวศของโลกใบนี้ไม่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของไดโนเสาร์ จึงทำให้เหล่าไดโนเสาร์ที่หลงเหลืออยู่ ต้องอาศัยอยู่ในสถานที่ห่างไกลในแถบเส้นศูนย์สูตรที่สภาพอากาศคล้ายคลึงกับยุคเรืองรองที่พวกมันเป็นเจ้าของโลกใบนี้ และสิ่งมีชีวิตยักษ์ใหญ่สามตัวที่อยู่อาศัยในแถบป่าดิบชื้นแห่งนี้ ก็ได้เป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างยารักษาที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการช่วยชีวิตมนุษย์ชาติ tidpaknews

สำหรับหนังภาคนี้ได้หนึ่งในผู้กำกับไฟแรงที่คิวฮอตเป็นว่าเล่น อย่าง “แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์” มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง นับว่าเป็นอีกครั้งที่เขาได้รับความไว้วางใจให้มาจัดการละเลงงานสร้างหนังระดับเฟรนไชส์ใหญ่อีกครั้ง ที่แน่นอนว่าประสบการณ์อันเรืองรองนับสิบปี นับตั้งแต่เขาแจ้งเกิดมาจากภาคแยกหนังสตาร์วอร์สเรื่องดัง ก็เป็นการเพาะบ่มที่เหมาะเจาะในการนำมาสู่จักรวาลไดโนเสาร์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ และเขาก็รับมือกับมันได้อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ

Jurassic World Rebirth

ในแง่งานสร้างใน Jurassic World Rebirth แทบไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงเลย เพราะคุณจะสามารถไว้วางใจกับวิสัยทัศน์และมุมมองการถ่ายทอดหนังของแกเร็ธได้อย่างสบายใจ ทิศทางหนังในฝีมือเขามักจะเต็มไปด้วยลูกเล่นที่น่าสนใจเสมอ ๆ ยิ่งครั้งนี้บุกป่าฝ่าดงลงทะเลในงานสร้างที่ทุนหนาด้วยแล้ว เขาก็จัดให้แบบไม่ยั้งมือ แม้ว่าส่วนประกอบมากมายของหนังก็คือการทำงานร่วมกับงานซีจีและเทคนิคพิเศษเสริมตลอดทั้งเรื่องก็ตาม แต่งานดีไซน์ก็ยังชวนตื่นตะลึงได้ดี

แล้วกิมมิกของความเป็นแกเร็ธ ที่ใส่มาได้ลงล็อกกับแนวถนัดของเขาพอดี ก็คือการเซอร์วิสแฟน ๆ หนังชุดนี้ด้วยโทนบรรยากาศแห่งความระทึกขวัญเขย่าขวัญ กลายเป็นหนังจูราสสิคที่ยังคงสอดแทรกการผจญภัยที่เต็มไปด้วยภัยอันตรายรายล้อมชวนหายใจหายคอไม่ทั่วท้องอยู่ตลอดเรื่อง นี่คือไฮไลต์อันเป็นเสน่ห์ที่หนังสามารถกระทำการเซอร์วิสแฟนหนังชุดนี้ได้อย่างน่าพึงพอใจและบันเทิงได้ดีแท้แน่นอน

รีวิวหนัง Jurassic World Rebirth

ขณะที่งานเทคนิคพิเศษและออกแบบซีจีต่าง ๆ ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีใช้ได้ตามมาตรฐานความเป็นจูราสสิค สำหรับในภาคนี้อาจจะไม่ได้เห็นจังหวะการเสิร์ฟความตื่นตาเกี่ยวกับไดโนเสาร์พันธุ์น่ารู้มากเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีสอดแทรกชวนเคลิ้มได้อยู่ ผนวกกับความพยายามสร้างไดโนเสาร์สายพันธุ์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม ที่นับว่าเป็นความทะเยอทะยานครั้งใหม่ของหนังชุดนี้ ที่ท้าทายและดึงคนดูไปตรงกลางระหว่างความกลัวกับความประทับใจ

แน่นอนว่าเราทราบกันดี Jurassic World Rebirth ได้ยกกองถ่ายมาทำงานหลัก ๆ ทางภาคใต้ของไทย บอกได้เลยว่าประมาณ 70% ของหนังเรื่องนี้ก็คือใช้เซตติ้งที่อยู่ในเมืองไทยจริง ๆ แฟนหนังชาวไทยจะได้ดื่มด่ำกับโลกของจูราสสิคในโลเคชันธรรมชาติในเมืองไทย ที่ถูกแต่งเติมด้วยซีจี ที่มีทั้งเนียนบ้างและยังไม่เนียนบ้างตามประสา แต่ความงามในสถานที่ดัง ๆ ในเมืองไทยก็ได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกและอยู่ในเฟรนไชส์หนังเรื่องยิ่งใหญ่ระดับโลกอีกครั้ง

รีวิวหนัง Jurassic World Rebirth

แต่กระนั้นจุดด้อยที่ค่อยข้างเป็นปัญหาของ Jurassic World Rebirth กลับกลายเป็นจังหวะการเดินเรื่องและพล็อตหนัง ที่เอาจริง ๆ น่าจะเป็นหนังจูราสสิคที่เค้าโครงเรื่องค่อนข้างอ่อนปวกเปียกเป็นอย่างมากอีกเรื่องหนึ่ง นับตั้งแต่ Jurassic Park III เพราะความสมเหตุสมผลและน้ำหนักของตัวบทหนังแทบไม่ทำให้ชวนติดตามสักเท่าไหร่ ยังขาดน้ำหนักสนับสนุนเนื้อหาที่หายวับไปอย่างน่าเสีย แม้ว่าจะได้ตำนาน “เดวิด โคเอปป์” จากต้นฉบับ Jurassic Park กลับมาเขียนบทหนังก็ตาม

ไม่เพียงแต่พล็อตกับเส้นเรื่องที่อ่อน แต่พบว่า Jurassic World Rebirth ยังมีการดำเนินเรื่องที่แทบจะหาความแปลกใหม่จากหนังเรื่องอื่น ๆ ในเฟรนไชส์นี้ไม่ได้เลย ไม่ต่างกับการหยิบยืมเอาไฮไลต์ของหนังภาคก่อนมารียูสปรุงแต่งใหม่ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของหนังป๊อบคอร์นที่ต้องมีทุก ๆ ซัมเมอร์ มาด้วยการปูเรื่องในช่วงแรก ๆ ที่ค่อนข้างอืดและไม่ชวนคล้อยตาม ถึงจะค่อนข้างเอ็นจอยดีกับการเซอร์วิสต่าง ๆ ในช่วงพาร์ทการผจญภัย แต่ทุกเส้นทางและย่างก้าวของตัวละครในหนังนั้น ล้วนแต่เป็นสิ่งที่คนดูน่าจะคาดเดาได้หมดแล้ว

รีวิวหนัง Jurassic World Rebirth

เพราะพล็อตและโครงเรื่องที่ค่อนข้างอ่อน ก็พลอยทำให้พลังทางการแสดงของทีมนักแสดงระดับซุปตาร์ก็อ่อนแรงไปอย่างน่าเสียดายด้วย “สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน” ที่เราก็ประหลาดใจอยู่ที่เธอโดดมาเล่นหนังชุดนี้ด้วย เพราะระดับเธอไม่ต้องเล่นหนังสไตล์นี้แล้วก็ได้ ลีลาการบู๊ของเธอยังชวนประทับใจ แต่มิติในบทบาทที่เธอได้รับเต็มไปด้วยความตื้นเขินในทุก ๆ ทาง จึงเป็นคาแรกเตอร์นำหญิงนักสู้ที่ยังไม่อาจจะทำให้คนดูอินไปกับเธอได้อย่างเต็มที่

เช่นเดียวกับ “โจนาธาน เบลีย์” และ “มาเฮิร์ซชาลา อาลี” ที่มาในรูปแบบรูทีนบทบาทเดิม ๆ ที่พึงมีอยู่ในหนังจูราสสิคแบบพื้นเพ พวกเขาคือนักแสดงมืออาชีพที่รับมือกับบทในมือได้ดี แต่ว่าบทหนังไม่ได้ส่งเสริมให้ตัวเขาโดดเด่นจากตัวหนังขึ้นมาได้ รวมทั้งนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ที่ยังมาพร้อมกับคาแรกเตอร์ที่ซ้ำเดิมสไตล์จูราสสิคต้องมี เป็นแพ็คเกจสูตรตัวละครแบบตายตัวที่หนังเรื่องนี้จับใส่เข้ามาแบบให้เต็ม โดยที่ลืมใส่รสชาติและชั้นเชิงไปอย่างน่าเสียดาย

Jurassic World Rebirth

ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว Jurassic World Rebirth ก็ยังคงเป็นหนังใหม่จากจักรวาลจูราสสิคที่กลับมาเพื่อเซอร์วิสแฟน ๆ ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ ในแง่การสร้างความบันเทิงและเสิร์ฟอรรถรสความสนุกในตัวหนังยังหยอดมาได้ค่อนข้างครบดี แต่ทว่าก็ยังเป็นผลงานที่ทิ้งเอาไว้ด้วยบาดแผลฟกช้ำมากมาย แม้ว่าวิสัยทัศน์และงานสร้างจากฝีมือผู้กำกับจะค่อนข้างเฉียบขาดพอตัว แต่เพราะพล็อตหนังที่ค่อนข้างเจือจางเหมือนวัตถุไร้น้ำหนักไปสักหน่อย ก็พลอยทำให้จูราสสิคภาคนี้เป็นได้เพียงแค่หนังดูเล่น แบบผ่าน ๆ ที่ไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำขนาดนั้น

One classic movie franchise that is not going to easily die, that is still trying to find ways and channels to continue breathing, coming back this time carrying the pressure of hoping for the opportunity to continue as a new trilogy, after the previous trilogy was done so well. Coming back in ” Jurassic World Rebirth, Jurassic World: The Birth of New Life ” , sparking a fire of a new adventure in the dinosaur world that is still as exciting as ever.

Jurassic World Rebirth

Five years after the dinosaurs appeared on Earth, it is now clear that the ecosystem of this world is not suitable for dinosaurs to live in. Therefore, the remaining dinosaurs have to live in a remote place in the equatorial region where the climate is similar to the golden age when they ruled this world. And three giant creatures living in this rainforest are the key to creating a medicine that will be very useful in saving human lives.

For this film, we have one of the hot directors, “Gareth Edwards”, to take charge of the production. It is another time that he has been trusted to manage the production of a big franchise. Of course, the decades of glorious experience since he was born from the famous Star Wars spin-off has been the perfect breeding ground for bringing this great dinosaur universe to life, and he handles it with confidence.

Jurassic World Rebirth

In terms of production in Jurassic World Rebirth, there is almost nothing to worry about because you can trust Gareth’s vision and perspective in filmmaking with peace of mind. The direction of his films is always full of interesting tricks. This time, he went all out in the jungle and into the sea in a production with a big budget. Even though many components of the film are working together with CG and special effects throughout the film, the design is still quite astonishing.

And the gimmick of being Gareth, which fits in perfectly with his forte, is to service the fans of this movie series with a tone of thrilling and suspenseful atmosphere, becoming a Jurassic movie that still includes adventures full of dangers that make you gasp for breath throughout the story. This is the highlight that is the charm of the movie that can service the fans of this movie series in a way that is satisfying and entertaining for sure.

Jurassic World Rebirth Movie Review

While the special effects and CG design are considered to be good enough to meet the Jurassic standards, in this installment we may not see as many moments of excitement about interesting dinosaur species, but there are still some inserts that make you dazed. Coupled with the attempt to create a genetically modified dinosaur species, this is considered a new ambition for this film series, challenging and pulling the audience between fear and impression.

Of course, we all know that Jurassic World Rebirth moved its main film crew to work in the southern part of Thailand. It can be said that approximately 70% of this movie uses settings that are actually in Thailand. Thai movie fans will be able to immerse themselves in the Jurassic world in natural locations in Thailand, enhanced with CGI that is sometimes smooth and sometimes not so smooth, as is the norm. But the beauty of famous locations in Thailand has appeared to the eyes of the world and is once again in a major world-class movie franchise.

Jurassic World Rebirth Movie Review

However, the weak point that is quite a problem of Jurassic World Rebirth turns out to be the pacing and plot of the film, which is actually probably a Jurassic film with a very weak plot, since Jurassic Park III, because the logic and weight of the film script are not very interesting. It still lacks weight to support the content that disappears unfortunately, even though the legendary “David Koepp” from the original Jurassic Park has returned to write the film script.

Not only the plot and storyline are weak, but Jurassic World Rebirth also has a story that is almost indistinguishable from other films in the franchise. It is no different from borrowing the highlights of the previous films and reusing them, full of the scent of a popcorn movie that must be had every summer, with a storyline in the beginning that is rather slow and not convincing. Although it is quite enjoyable with the various services in the adventure part, every path and step of the characters in the film is something that the audience should be able to guess.

Jurassic World Rebirth Movie Review

Because the plot and storyline are rather weak, it also makes the acting power of the team of superstar actors weak, which is a shame. We’re surprised that “Scarlett Johansson” jumped to play in this movie series because at her level she doesn’t need to play in movies of this style. Her fighting style is still impressive, but the dimensions of the role she received are full of shallowness in every way. Therefore, it is a female lead fighting character that still can’t make the audience fully empathize with her.

Like “Jonathan Bailey” and “Mahirshala Ali” who come in the same routine roles that should be in a typical Jurassic movie, they are professional actors who handle the roles well, but the script does not promote them to stand out from the film. Including other supporting actors who come with the same old characters in the style of Jurassic must have, it is a package of fixed character formulas that this movie puts in to the fullest, but unfortunately forgets to add flavor and finesse.

Jurassic World Rebirth

Therefore, overall, Jurassic World Rebirth is still a new movie from the Jurassic universe that has returned to effectively serve fans. In terms of creating entertainment and serving fun in the movie, it is still quite complete. However, it is still a work that leaves many bruises. Although the vision and creation from the director’s hands are quite sharp, because the plot is a bit diluted, like a weightless object, it makes this Jurassic movie just a passing movie that doesn’t have anything that’s memorable.