Home |
“Wicked: For Good” คือบทสรุปอันยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์มิวสิคัลแฟนตาซีที่สร้างจากละครเวทีชื่อดังระดับโลก และเป็นภาคต่อของ “Wicked” (2024) ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาผู้ชมเข้าสู่องก์ที่สองของเรื่องราวที่ไม่เคยถูกเปิดเผยของแม่มดแห่งออซ โดยมุ่งเน้นไปที่การเดินทางของ เอลฟาบา (Elphaba) ผู้ที่ถูกตราหน้าว่าเป็น “แม่มดชั่วร้ายแห่งตะวันตก” และ กลินด้า (Glinda) “แม่มดดีแห่งแดนเหนือ” ผู้เป็นที่รักของประชาชน หลังจากการแยกทางกันอย่างเจ็บปวดในภาคแรก ภาคนี้จะเข้มข้นขึ้นด้วยความขัดแย้งทางการเมือง การทรยศหักหลัง และการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนชะตากรรมของพวกเธอและดินแดนออซไปตลอดกาล ด้วยงานสร้างที่อลังการและเพลงประกอบที่แฟน ๆ รอคอย ทำให้ “Wicked: For Good” ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี (คีย์หลัก: หนังใหม่, รีวิวหนังใหม่)
หลังเหตุการณ์ในภาคแรก เอลฟาบาได้ถูกประณามว่าเป็น “แม่มดชั่วร้ายแห่งตะวันตก” และต้องใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนเพื่อต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับ “สัตว์” ที่ถูกกดขี่ในออซ ในขณะเดียวกัน กลินด้าถูกผลักดันให้เป็นสัญลักษณ์ของความ “ดีงาม” และได้รับความนิยมอย่างสูงภายใต้การชี้นำของมาดามมอร์ริเบิลและท่านพ่อมดแห่งออซ ความแตกต่างในวิถีชีวิตทำให้มิตรภาพของทั้งคู่ถูกท้าทายอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลินด้ากำลังจะเข้าพิธีเสกสมรสกับฟิเยโร แต่ฟิเยโรกลับมีความมุ่งมั่นที่จะตามหาเอลฟาบาให้เจอ เรื่องราวจะเจาะลึกไปที่ผลลัพธ์ของการตัดสินใจที่ทั้งสองได้เลือกไปแล้ว และความพยายามครั้งสุดท้ายของทั้งเอลฟาบาและกลินด้าที่จะเปิดเผยความจริงและเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง “เพื่อความดีงาม” ของออซ (คีย์หลัก: ดูหนัง Wicked: For Good)
ทีมนักแสดงชุดเดิมกลับมาอย่างครบถ้วนเพื่อปิดตำนานมิตรภาพและเวทมนตร์ครั้งนี้ โดยมี ซินเธีย เอริโว (Cynthia Erivo) รับบทเป็น เอลฟาบา (Elphaba) ผู้ซึ่งต้องแบกรับความเข้าใจผิดของโลก และ อาริอาน่า แกรนเด (Ariana Grande) ในบท กลินด้า (Glinda) ผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับราคาของความนิยมชมชอบและการเป็น “คนดี” นอกจากนี้ยังมี โจนาธาน เบลีย์ (Jonathan Bailey) กลับมารับบท ฟิเยโร (Fiyero) องค์รักษ์หนุ่มที่หัวใจเต้นเพื่อเอลฟาบา และ เจฟฟ์ โกลด์บลุม (Jeff Goldblum) ในบทบาท ท่านพ่อมดแห่งออซ (The Wizard) และ มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) ในบทบาท มาดามมอร์ริเบิล (Madame Morrible) ที่จะนำพาบทสรุปอันเข้มข้นมาสู่ผู้ชม (คีย์หลัก: รีวิวหนังใหม่ Wicked: For Good)
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงกำกับโดย จอน เอ็ม. ชู (Jon M. Chu) ผู้กำกับมากฝีมือที่เคยฝากผลงานอันโด่งดังไว้ในภาพยนตร์มิวสิคัลอย่าง In the Heights และภาพยนตร์รักสุดฮิต Crazy Rich Asians ชูได้ตัดสินใจแบ่งภาพยนตร์ออกเป็นสองภาคเพื่อรักษาความสมบูรณ์และรายละเอียดของเรื่องราวตามบทละครเวทีให้มากที่สุด วิสัยทัศน์ของเขาคือการสร้างโลกแห่งออซที่ทั้งตระการตาและมีชีวิตชีวา โดยเน้นย้ำถึงความเป็นมิวสิคัลผ่านฉากเต้นและเพลงร้องที่ยิ่งใหญ่ ทีมงานเบื้องหลังยังประกอบไปด้วยนักประพันธ์เพลงต้นฉบับอย่าง สตีเฟน ชวาร์ตซ์ (Stephen Schwartz) และผู้เขียนบทละครเวทีอย่าง วินนี่ ฮอลซ์แมน (Winnie Holzman) มาร่วมเขียนบทภาพยนตร์อีกครั้ง ทำให้มั่นใจได้ว่าแก่นแท้ของ “Wicked” ยังคงอยู่ครบถ้วน
จากการเห็นในตัวอย่างสุดท้าย งานภาพของ “Wicked: For Good” ยังคงรักษามาตรฐานความอลังการไว้ได้อย่างน่าประทับใจ โทนสีของภาพยนตร์ถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจน: สีเขียวของเอลฟาบา ที่สื่อถึงความแปลกแยกและพลังเวทมนตร์ที่ถูกเข้าใจผิด และ สีชมพู/ขาวของกลินด้า ที่สื่อถึงความบริสุทธิ์และการเป็นที่ยอมรับ การถ่ายทำโดย อลิซ บรูคส์ (Alice Brooks) ใช้มุมกล้องที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากเพลงอย่าง “No Good Deed” ที่ให้ความรู้สึกถึงความโกรธเกรี้ยวและพลังที่พุ่งพล่านของเอลฟาบา ส่วนการใช้ CG และ Special Effect นั้นถูกนำมาใช้เพื่อสร้างฉากแฟนตาซีให้ดูน่าทึ่ง ทั้งเมืองมรกตที่ตระการตา และฉากแม่มดบินที่ให้ความรู้สึกถึงเสรีภาพและความโดดเดี่ยวของเอลฟาบา
หัวใจสำคัญของ “Wicked” คือบทเพลงที่ติดหูและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ โดย สตีเฟน ชวาร์ตซ์ ได้กลับมาดูแลด้านดนตรีประกอบทั้งหมด ภาคนี้จะนำเสนอบทเพลงที่ทรงพลังและเป็นที่รักของแฟน ๆ จากองก์ที่สองของมิวสิคัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลง “For Good” ซึ่งเป็นเพลงหลักที่พูดถึงผลกระทบที่มิตรภาพมีต่อชีวิตของคนสองคน และเพลง “No Good Deed” ที่เอลฟาบาระเบิดความรู้สึกออกมาหลังจากถูกโลกเข้าใจผิด นอกจากนี้ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยังถูกปรับปรุงให้ยิ่งใหญ่ขึ้นด้วยฝีมือของ จอห์น พาวเวลล์ (John Powell) เพื่อสร้างบรรยากาศที่เข้มข้นขึ้นในฉากดราม่าและการผจญภัย การสร้างอารมณ์ผ่านเสียงดนตรีจะช่วยส่งเสริมความรู้สึกของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความเศร้า หรือความรัก
ประเด็นหลักที่ “Wicked: For Good” ต้องการสื่อสารอย่างชัดเจนคือ “การตีความใหม่ของความดีและความชั่ว” หนังตั้งคำถามว่าใครเป็นคนกำหนดความดีงาม และความชั่วร้ายเกิดขึ้นได้อย่างไร เอลฟาบาถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกและอำนาจของสื่อ/การเมือง ในขณะที่กลินด้าต้องต่อสู้กับแรงกดดันทางสังคมที่ทำให้เธอต้องแสดงบทบาทเป็น “คนดี” หนังยังสอดแทรกข้อคิด/แง่มุมทางสังคมเกี่ยวกับ “อำนาจของสื่อและการบิดเบือนความจริง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้โฆษณาชวนเชื่อของท่านพ่อมดเพื่อควบคุมประชาชน ความหมายเชิงลึกที่ซ่อนอยู่คือการสำรวจความซับซ้อนของมิตรภาพที่แท้จริง ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจและการยอมรับ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เนื่องจากภาพยนตร์ยังไม่เข้าฉายอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่มีคะแนน IMDb หรือ Rotten Tomatoes อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม จากกระแสตอบรับในตัวอย่างและการคาดการณ์ของนักวิจารณ์ มีแนวโน้มว่า “Wicked: For Good” จะได้รับคำชื่นชมในเชิงบวกอย่างล้นหลามเช่นเดียวกับภาคแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน “การแสดง” ของ Cynthia Erivo และ Ariana Grande ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะนำพาพวกเขาเข้าสู่เวทีรางวัลใหญ่ (คีย์หลัก: Wicked For Good) บทสรุปของเรื่องราวนี้ถูกตั้งความหวังไว้สูงมาก และคาดว่าจะเป็นภาพยนตร์มิวสิคัลที่ทำรายได้สูงและสร้างกระแสได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่เนื้อหามีความเข้มข้นและดราม่ามากกว่าภาคแรก อาจทำให้นักวิจารณ์ยกย่องการถ่ายทอดอารมณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
Wicked: For Good ไม่ได้เป็นเพียงบทสรุปของเรื่องราวเท่านั้น แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ถึงพลังของมิตรภาพที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ทั้งใบ จุดเด่น คือการแสดงอันน่าทึ่งของนักแสดงนำ เพลงประกอบที่ไพเราะและเปี่ยมด้วยอารมณ์ และงานสร้างที่ตระการตาและยิ่งใหญ่สมกับเป็นบทสรุปของแฟรนไชส์นี้ จุดด้อย อาจจะเป็นเนื้อหาที่เข้มข้นและมืดหม่นกว่าภาคแรกเล็กน้อย ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจผู้ชมที่คาดหวังความสดใสแบบเทพนิยาย อย่างไรก็ตาม ความคุ้มค่าในการเข้าชมอยู่ในระดับสูงสุด เพราะนี่คือการได้ชมตำนานมิวสิคัลที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด กลุ่มคนดูที่เหมาะกับหนัง คือ แฟน ๆ มิวสิคัล แฟน ๆ The Wizard of Oz และผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แฟนตาซีที่เน้นประเด็นดราม่า ความรัก และมิตรภาพที่ซับซ้อน
หากคุณได้ติดตามเรื่องราวของเอลฟาบาและกลินด้ามาตั้งแต่ภาคแรก หรือเป็นแฟนเพลงมิวสิคัลที่รอคอยการกลับมาของบทเพลงอันยิ่งใหญ่ Wicked: For Good คือภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง! เตรียมตัวพบกับบทสรุปที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความตื่นเต้น และเวทมนตร์ที่จะทำให้คุณ “เปลี่ยนไปตลอดกาล” ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น ร่วมเป็นสักขีพยานในวันเข้าฉาย 21 พฤศจิกายน 2025 และสัมผัสความยิ่งใหญ่ของ Wicked: For Good ด้วยตัวคุณเอง ( หนังใหม่, รีวิวหนังใหม่, Wicked: For Good, ดูหนัง Wicked: For Good)
อ่านข่าว กีฬาออนไลน์ – tuna56 เพิ่มเติมได้
Estimated reading time: 4 minutes