| Home |
ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ชื่อของ เฉินหลง ถูกพูดถึงอย่างหนักในโลกออนไลน์ หลังสารคดีชีวิตที่บันทึกเส้นทางกว่า 40 ปีของเขาออกฉายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงหลายเจ้า ทำให้ผู้ชมรุ่นใหม่รู้จักเส้นทางสุดหินของนักแสดงบู๊ที่แทบไม่เคยใช้สตันท์ในการถ่ายทำ สื่อหลายสำนักยังยกจุดขายของเฉินหลง คือการผสมผสาน “คิวบู๊จริง” เข้ากับ “คอมเมดี้ธรรมชาติ” จนเกิดเป็นลายเซ็นที่โลกจำได้ทันที แม้ปัจจุบันเขาจะรับงานน้อยลง แต่คลิปเบื้องหลังการถ่ายทำที่ถูกขุดขึ้นมาแชร์ก็ยังสร้างไวรัล เช่น ฉากกระโดดตึก, ฉากฟาดโต๊ะ, ฉากโรยตัว ซึ่งย้ำให้เห็นว่าความบ้าบิ่นของเขาคือของจริง กระแสนี้ทำให้ชื่อเฉินหลงกลับมาติดเทรนด์ Weibo หลายวันติดต่อกัน พร้อมคอมเมนต์ชื่นชมถึงความทุ่มเทที่หาได้ยากในวงการยุคปัจจุบัน
เส้นทางของ เฉินหลง นั้นไม่ธรรมดา เขาเริ่มจากการฝึกในโรงเรียนกายกรรมปักกิ่ง ซึ่งขึ้นชื่อด้านวินัยสุดเข้มข้น ก่อนจะถูกผลักดันเข้าสู่วงการภาพยนตร์ตั้งแต่ยังเด็กด้วยบทสตันท์แมนในหนังของบรูซ ลี หลังจากนั้น เฉินหลงเริ่มค้นพบสไตล์การแสดงเฉพาะตัว ที่ผสมความคล่องตัวของศิลปะการต่อสู้กับความตลกแบบเป็นธรรมชาติ ทำให้เขาแตกต่างจากพระเอกบู๊ทั่วไป และกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมในหลายประเทศ ความสำเร็จในยุค 80–90 ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในหน้าตาของฮ่องกงบนเวทีโลก แม้จะผ่านบทโหด ๆ มานับไม่ถ้วน แต่เฉินหลงยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง และมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดง การกำกับ หรือการสร้างคิวบู๊ให้ทีมงานรุ่นใหม่ได้เรียนรู้
ผลงานช่วงที่ผลักดัน เฉินหลง สู่ฮอลลีวูดอย่างเต็มตัว ได้แก่ Rumble in the Bronx, Rush Hour, Shanghai Noon และ Around the World in 80 Days หนังเหล่านี้ไม่เพียงทำเงินมหาศาล แต่ยังจุดกระแสแนว “บู๊–ตลก” ให้ดังไปทั่วโลก ผู้ชมต่างชื่นชมความสามารถของเขาในการทำสตันท์ด้วยตัวเอง และการออกแบบฉากต่อสู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง เช่น การใช้เฟอร์นิเจอร์ หรือของใกล้ตัวเป็นอาวุธเฉพาะกิจ ความสำเร็จนี้ทำให้ชื่อเฉินหลงกลายเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี แต่หนังของเขายังถูกฉายซ้ำบนสตรีมมิงอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะในหมวดแอ็กชัน–คอมเมดี้ที่แทบไม่มีใครลอกเลียนแบบได้สำเร็จ ทำให้เขากลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของวงการหนังฮอลลีวูดและฮ่องกงพร้อมกัน
แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่เสน่ห์ของ เฉินหลง ก็ยังคงเหมือนเดิม คือการเป็นนักแสดงที่จริงใจ ตรงไปตรงมา และทุ่มเทจนแฟนทั่วโลกชื่นชม การกลับมาของหนังเก่าในแบบรีมาสเตอร์ยังทำให้ผู้ชมรุ่นใหม่ค้นพบความสนุกของสไตล์เฉินหลงอีกครั้ง หนึ่งในสิ่งที่แฟนมักพูดถึงคือฉากไล่ล่าในเมือง ที่เฉินหลงมักจะใช้รถยนต์และสภาพแวดล้อมรอบตัวสร้างคิวแอ็กชันให้ตื่นเต้นจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ว่าจะดูอีกกี่ครั้งก็ยังสนุก นั่นทำให้แฟนบางส่วนเกิดความสนใจเกี่ยวกับ “รถยนต์” ที่ถูกใช้ในกองถ่าย รวมถึงเทคนิคการถ่ายทำฉากไล่ล่าที่มีความท้าทายสูง
อ่านต่อ: “ รถยนต์ ” ที่ใช้ถ่ายทำฉากไล่ล่าในหนังแอ็กชันระดับโลก