| Home |
กระแสของ Predator Badlands ยังคงแรงต่อเนื่อง หลังหนังทำรายได้รวมทั่วโลกแตะ 177.6 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือที่เก็บไปแล้ว 88.3 ล้านดอลลาร์ ทำให้แซงหนังดิสนีย์ฟอร์มใหญ่ Snow White (2025) อย่างเป็นทางการ จนสร้างเซอร์ไพรส์ให้ทั้งวงการหนังฮอลลีวูด เพราะเดิมที Snow White ถูกวางให้เป็นหนึ่งในหนังทำเงินประจำปี แต่กลับโดนหนังสายล่าเอเลี่ยนเน้นความดิบ–เข้มอย่าง Predator แซงขึ้นชาร์ตแบบไม่ทันตั้งตัว และตอนนี้ Predator: Badlands ขยับเข้าสู่ อันดับ 20 ของหนังทำเงินสูงสุดปี 2025 พร้อมแนวโน้มจะขยับขึ้นอีกหากรายได้ครึ่งเดือนหน้าคงความแรง
ความแรงของ Predator: Badlands มาจากการนำสูตรความคลาสสิกของแฟรนไชส์ยุค 80 มาปรับให้ดิบขึ้น โหดขึ้น และเน้นแนวเอาตัวรอดแบบ “Survival Sci-Fi” ที่แฟนเก่าคิดถึง ประกอบกับการเลือกโลเกชันถ่ายทำในพื้นที่ทะเลทราย–หุบเขาที่ให้โทน “ล่าสมจริง” จนผู้ชมรู้สึกเหมือนถูกโยนเข้าไปอยู่กลางสมรภูมิ เนื้อเรื่องที่พา Predator กลับมาฉายเดี่ยวแบบเข้มข้น บวกกับงานโปรดักชันระดับสูง และเสียงรีวิวปากต่อปากว่า “มันกว่า Prey และรีบูตยุคใหม่” ทำให้กลุ่มผู้ชอบหนังแอ็กชัน–ไซไฟพากันตีตั๋วซ้ำ นอกจากนี้ ผลกระทบทางจังหวะฉายที่ชนหนังตระกูลเทพนิยายซึ่งกระแสโลกเริ่มอิ่มตัว ก็กลายเป็นปัจจัยที่ผลักดัน Predator ให้ทะยานสูงขึ้นแบบยาวๆ
การที่ Predator: Badlands แซง Snow White ส่งผลชัดเจนต่อดีลโรงหนังในอเมริกาเหนือ เพราะหลายเครือใหญ่เริ่มขยับเพิ่มรอบ IMAX และรอบค่ำให้หนัง เนื่องจากยอดจองตั๋วสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มแฟนหนัง Sci-Fi Action ที่กลับเข้ามาในโรงหนังมากขึ้นหลังช่วงปีที่ผ่านมาเป็นยุคของหนังครอบครัว–แอนิเมชัน นอกจากนี้ ความสำเร็จครั้งนี้ยังทำให้สตูดิโอต้นสังกัดเริ่มพิจารณาเข็นภาคต่อ หรือทำสปินออฟใหม่ เพื่อกวาดรายได้ตลาดเอเชีย–ลาตินอเมริกา ที่กำลังให้ความสนใจหนังแนวเอเลี่ยนล่าอย่างมากในปีนี้
ความสำเร็จของ Predator: Badlands ยังสื่อถึงเทรนด์ผู้ชมที่กำลังกลับมาหาหนังสายมันส์ แอ็กชันล้วน และภาพยนตร์ไซไฟล่าความตื่นเต้น หากพี่อยากตามต่อเรื่องการผลิตภาพยนตร์ รถยนต์ในหนังไซไฟ รวมถึงการออกแบบเทคโนโลยีในภาพยนตร์ ผมแนะนำเว็บเนื้อหารถยนต์และเทคโนโลยียานยนต์ ซึ่งมีบทวิเคราะห์เกี่ยวกับเทคสร้างโลกภาพยนตร์อยู่บ่อยครั้ง → รถยนต์