| Home |
ประวัติ จอนนี่ เดฟ เริ่มต้นจากเมืองเล็ก ๆ อย่างโวว์นสบโร รัฐเคนตักกี้ สหรัฐอเมริกา เขาเกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 1963 ในครอบครัวชนชั้นแรงงาน ความฝันแรกของเดฟไม่ใช่วงการแสดง แต่เป็น “ดนตรีร็อก” เขาเริ่มเล่นกีตาร์ตั้งแต่อายุยังน้อยและเข้าวงดนตรีท้องถิ่นหลายวง ความหลงใหลนี้ทำให้เขาย้ายไปลอสแอนเจลิสเพื่อล่าฝันนักดนตรี ก่อนโชคชะตาจะพาเขาเข้าสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์แบบไม่คาดคิด
การแนะนำเข้าสู่วงการของเดฟเกิดขึ้นหลังได้พบ นิโคลัส เคจ ซึ่งแนะนำให้เขาลองไปแคสต์งานแสดง แม้เดฟจะไม่เคยคิดว่าจะเป็นนักแสดง แต่ความกล้าและเสน่ห์เฉพาะตัวทำให้เขาได้บทใน A Nightmare on Elm Street (1984) ซึ่งเปิดทางสู่ฮอลลีวูดอย่างสวยงาม เส้นทางนี้กลายเป็นก้าวแรกของนักแสดงที่ต่อมาจะกลายเป็นหนึ่งในไอคอนระดับตำนานของวงการภาพยนตร์โลก
หลังจากเปิดตัวด้วยภาพยนตร์สยองขวัญ เดฟได้รับบทในซีรีส์ 21 Jump Street ซึ่งทำให้เขากลายเป็นไอดอลวัยรุ่น แต่เขารู้ตัวว่าต้องการมากกว่านั้น จอนนี่ เดฟจึงเลือกเส้นทางที่แตกต่าง ด้วยการรับงานภาพยนตร์ที่ท้าทายและแหวกขนบ เช่น Edward Scissorhands (1990) ที่ร่วมงานกับผู้กำกับคู่บุญ ทิม เบอร์ตัน บทชายใบมีดที่โดดเด่นทั้งภาพลักษณ์และการแสดง ทำให้เดฟได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามและเริ่มสร้างชื่อในฐานะนักแสดงสาย “คาแรกเตอร์”
ต่อจากนั้นเขาเดินหน้าพิสูจน์ฝีมือผ่านผลงานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Ed Wood, Donnie Brasco, Sleepy Hollow และอีกมากมาย เดฟมักหลีกเลี่ยงบท mainstream และเน้นตัวละครที่ซับซ้อน มีความบ้าบิ่น หรือแปลกประหลาด จนทำให้เขากลายเป็นนักแสดงที่ฮอลลีวูดจับตามองที่สุดคนหนึ่ง
การมาถึงของ Pirates of the Caribbean (2003) ทำให้ชื่อของจอนนี่ เดฟพุ่งทะยานระดับโลกอย่างแท้จริง บท “กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์” เป็นตัวละครที่เขาสร้างขึ้นด้วยสไตล์เฉพาะตัว ทั้งท่าทางเมา ๆ การพูดจาแบบกวน ๆ และคาแรกเตอร์โจรสลัดสุดติสต์ ผลลัพธ์คือความสำเร็จระดับปรากฏการณ์ ภาพยนตร์กลายเป็นแฟรนไชส์ระดับพันล้านดอลลาร์ และเดฟได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ครั้งแรกจากบทนี้
กัปตันแจ็คไม่ใช่แค่บทในหนัง แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ความสามารถของเดฟในการดัดแปลงบุคลิกให้เป็นเอกลักษณ์ทำให้ผู้ชมทั่วโลกหลงรัก ทุกครั้งที่เดฟปรากฏตัวในบทนี้ ล้วนสร้างกระแสไวรัลและมีอิทธิพลต่อแฟนคลับของดิสนีย์เป็นอย่างมาก ถือเป็นบทบาทที่ยืนยันว่าเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เก่งที่สุดของยุค
แม้เส้นทางอาชีพจะโดดเด่น แต่ชีวิตส่วนตัวของเดฟก็เต็มไปด้วยดราม่า ไม่ว่าจะเป็นประเด็นคดีความ การฟ้องร้องข้ามปี และการถูกสื่อโจมตีอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม คำตัดสินของศาลในปี 2022 ที่ชี้ว่าเขาได้รับความเสียหายจากการถูกกล่าวหาเท็จ ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาฟื้นกลับมาอีกครั้ง แฟนทั่วโลกต่างสนับสนุน และโซเชียลมีเดียกลายเป็นพลังสำคัญที่ผลักดันให้เขากลับมายืนหยัดในวงการอีกครั้ง
เดฟเริ่มกลับมารับงานแสดง เดินสายดนตรี และมีโปรเจกต์ร่วมกับผู้กำกับต่างประเทศ รวมถึงผลงานฟื้นคืนชื่อเสียงอย่าง Jeanne du Barry (2023) ที่ได้รับคำชมในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ทำให้เขากลับมาในฐานะ “นักแสดงระดับตำนานที่ผ่านไฟชีวิตมาแล้วทุกบททดสอบ” ( อ่านเพื่มเติม selena24 )