“เส้นทางของคนเรา บางครั้งเริ่มต้นจากความฝันเล็กๆ ที่ห้องนอน แต่สามารถพาไปสู่เวทีที่มีคนนับล้านเฝ้ามอง” ประโยคนี้อธิบายเส้นทางชีวิตของ กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หรือที่แฟนๆ ทั่วโลกรู้จักกันในชื่อ แบมแบมGOT7 ได้อย่างชัดเจน จากเด็กชายที่เติบโตในครอบครัวธรรมดาในกรุงเทพฯ สู่การเป็นศิลปิน K-Pop ที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน แบมแบมเกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1997 บ้านเกิดอยู่ย่านบางรัก กรุงเทพมหานคร เขาเติบโตมากับคุณแม่และพี่น้อง 3 คนที่ต่างมีความใกล้ชิดอบอุ่น การศึกษาช่วงต้นในโรงเรียนไทยก่อนจะก้าวสู่การเดินทางตามความฝัน ทำให้เรื่องราวของเขากลายเป็นแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่
วัยเด็กของแบมแบมเต็มไปด้วยความฝันที่จะเป็นศิลปิน เขาได้รับแรงบันดาลใจจากการดูคอนเสิร์ตของวง Super Junior โดยเฉพาะไอดอลรุ่นพี่ “อีทึก” และ “ฮยอกแจ” ที่ทำให้เขาตั้งใจว่าอยากยืนอยู่บนเวทีแบบนั้นบ้าง จุดเปลี่ยนสำคัญคือการที่คุณแม่พาเขาไปเรียนเต้นและส่งเสริมเต็มที่ แม้ครอบครัวจะไม่ร่ำรวย แต่ความตั้งใจและแรงสนับสนุนจากครอบครัวทำให้เขาก้าวต่อไป
สิ่งที่ผลักดันอย่างมากคือการได้เข้าร่วมการประกวด “Rain Cover Dance” จนได้รับรางวัลและเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการเต้นระดับเยาวชน นั่นคือก้าวแรกที่พาเขาเข้าสู่เส้นทางที่กว้างใหญ่เกินคาดคิด
ปี 2010 แบมแบมในวัยเพียง 13 ปี ได้ผ่านการออดิชันเข้าสู่ค่ายยักษ์ใหญ่ JYP Entertainment ของเกาหลีใต้ ซึ่งถือว่าเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในชีวิต การเดินทางไปเกาหลีเพื่อตามฝันไม่ใช่เรื่องง่าย เขาต้องเรียนรู้ภาษาใหม่ ฝึกซ้อมอย่างหนักหลายชั่วโมงต่อวัน และใช้ชีวิตห่างไกลครอบครัว แต่สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นแรงหล่อหลอมให้เขาแข็งแกร่ง
ช่วงแรกแบมแบมต้องเผชิญความท้าทาย ทั้งเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความกดดันจากการเป็นเด็กต่างชาติในค่ายใหญ่ รวมถึงการแข่งขันที่ดุเดือด แต่ด้วยพรสวรรค์ด้านการเต้นและความพยายาม เขาจึงสามารถยืนหยัดจนได้รับเลือกเป็นหนึ่งในสมาชิกวง
ปี 2014 คือปีที่โลกได้รู้จักชื่อ “แบมแบม” อย่างเป็นทางการ กับการเปิดตัววง กันต์พิมุกต์ ภูวกุล เพลงเดบิวต์ Girls Girls Girls ได้สร้างเสียงฮือฮาในวงการ K-Pop ทันที ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวของสมาชิกแต่ละคน และแบมแบมเองที่โดดเด่นด้านการแร็ปและการเต้น ทำให้แฟนคลับหลงรักอย่างรวดเร็ว
ตลอดหลายปี กันต์พิมุกต์ ภูวกุล สร้างผลงานมากมาย เช่น Just Right, If You Do, Hard Carry และ Never Ever ซึ่งหลายเพลงก้าวขึ้นชาร์ตระดับโลก วงได้รับรางวัลมากมาย อาทิ Golden Disc Awards, MTV Europe Music Awards และ Seoul Music Awards ชื่อของแบมแบมจึงไม่เพียงอยู่แค่ในฐานะ “เด็กไทยในเกาหลี” แต่กลายเป็นศิลปินระดับโลกที่สร้างมาตรฐานใหม่
จุดพีคอีกช่วงคือการที่เขาเริ่มออกผลงานเดี่ยวหลัง กันต์พิมุกต์ ภูวกุล แยกทางกับ JYP โดยซิงเกิล riBBon และอัลบั้มเดี่ยวต่างๆ แสดงให้เห็นถึงตัวตนที่เติบโตขึ้น พร้อมการตอบรับจากทั้งแฟนเกาหลีและไทยอย่างท่วมท้น
เบื้องหลังความสำเร็จ แบมแบมเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวอย่างมาก โดยเฉพาะคุณแม่ที่คอยอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจสำคัญอยู่เสมอ เขายังมีความสนใจในด้านแฟชั่น การออกแบบเสื้อผ้า และการสะสมของเล่นโมเดล นอกจากนี้เขายังเป็นคนอารมณ์ดี สร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนร่วมวงและทีมงาน
เพื่อนในวงการมักเล่าว่าแบมแบมเป็นคนจริงใจและมีน้ำใจ เช่น การช่วยเหลือรุ่นน้อง การเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กฝึกหัด และการเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลบ่อยครั้ง ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเป็นที่รักทั้งในและนอกวงการ
ตลอดเส้นทาง แบมแบมก็ไม่พ้นจากกระแสข่าวและดราม่า เช่น ข่าวการยุติสัญญากับ JYP และการเดินหน้าทำงานเดี่ยว หลายคนตั้งคำถามว่า กันต์พิมุกต์ ภูวกุล จะไปต่อได้หรือไม่ แต่การที่สมาชิกยังคงยืนยันว่าจะทำงานร่วมกันในรูปแบบต่างๆ ทำให้แฟนคลับมั่นใจมากขึ้น
อีกประเด็นที่ถูกพูดถึงคือการที่แบมแบมถูกเชิญไปเป็นหนึ่งในพิธีกรหลักของงาน Golden Disc Awards ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเขามีบทบาทสำคัญต่อวงการเกาหลีไม่แพ้ศิลปินชาติอื่นๆ
การตอบสนองของเจ้าตัวต่อข่าวเหล่านี้มักเป็นไปอย่างสุภาพและจริงใจ ทำให้แฟนๆ ยิ่งรักและสนับสนุนเขามากขึ้น บนแพลตฟอร์มโซเชียล เช่น Twitter หรือ Instagram ชื่อของเขามักติดเทรนด์เสมอ และบางครั้งยังถูกพูดถึงในเว็บไซต์ข่าวบันเทิงและบล็อก เช่น tuna56 ที่รวบรวมกระแสข่าวดารา
แบมแบมเป็นหนึ่งในศิลปินไทยไม่กี่คนที่สามารถสร้างชื่อเสียงระดับโลกในวงการ K-Pop การที่เขาสามารถแข่งขันในตลาดที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น แสดงถึงศักยภาพและความพยายามที่ไม่ธรรมดา เมื่อเปรียบเทียบกับดารารุ่นเดียวกัน แบมแบมถือว่ามีความโดดเด่นในด้านการปรับตัวและการสร้างภาพลักษณ์ที่มั่นคง
แนวโน้มอนาคตของเขายังสดใส ทั้งการทำงานเพลงเดี่ยว การเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้สินค้าระดับโลก และการร่วมงานในโครงการบันเทิงนานาชาติ เขาจึงมีศักยภาพในการเป็น “Global Icon” ที่แท้จริง
แบมแบมไม่ได้เป็นเพียงศิลปิน แต่ยังสะท้อนภาพสังคมยุคใหม่ที่ไร้พรมแดน ความสำเร็จของเขาแสดงให้เห็นว่าคนไทยสามารถก้าวไปสู่เวทีโลกได้หากมีความสามารถและความพยายาม เขายังเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนที่อยากเข้าสู่วงการบันเทิงหรือการแสดงออกทางศิลปะ
ในแง่วัฒนธรรม แบมแบมยังเป็นสะพานเชื่อมระหว่างแฟนคลับไทยและเกาหลี เขาใช้ภาษาไทยพูดกับแฟนๆ ต่างชาติบ่อยครั้ง และยังคงรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านการสัมภาษณ์และผลงาน ทำให้แฟนๆ รู้สึกใกล้ชิด
เรื่องราวของแบมแบมสอนให้เห็นว่า ความฝันไม่เคยไกลเกินเอื้อม หากกล้าที่จะเริ่มต้นและพยายามเต็มที่ จากเด็กไทยธรรมดาคนหนึ่ง เขาสามารถก้าวไปยืนในจุดที่ศิลปินหลายคนใฝ่ฝันได้ ข้อคิดสำคัญคือการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค และการซื่อสัตย์กับตัวเอง
สิ่งเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เชื่อมั่นในพลังของความพยายาม และย้ำเตือนว่าการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคมมีบทบาทสำคัญในการผลักดันความฝันให้เป็นจริง
เส้นทางชีวิตของ แบมแบมGOT7 สะท้อนให้เห็นบทเรียนที่มีคุณค่าอย่างยิ่งในหลายมิติ ประการแรกคือ “ความพยายามไม่เคยทรยศใคร” จากเด็กที่เริ่มต้นเพียงแค่ความฝันและการฝึกซ้อมเต้น เขาพิสูจน์ให้เห็นว่าความตั้งใจและการทำงานหนักสามารถพาไปถึงเวทีระดับโลกได้จริง นี่คือแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ที่กำลังสับสนหรือท้อแท้ เชื่อมั่นว่าทุกก้าวเล็กๆ วันนี้สามารถปูทางไปสู่อนาคตอันยิ่งใหญ่ได้
อีกบทเรียนที่ชัดเจนคือ “พลังของครอบครัวและการสนับสนุน” ตลอดเส้นทาง แบมแบมไม่เคยลืมเล่าถึงคุณแม่และพี่น้องที่เป็นแรงผลักดันสำคัญ การที่ครอบครัวให้กำลังใจแม้ในยามที่ต้องไปอยู่ต่างประเทศลำพัง กลายเป็นเสาหลักทางใจที่ทำให้เขาไม่ยอมแพ้ สิ่งนี้บอกเราว่าเบื้องหลังของความสำเร็จทุกครั้ง มักมีคนที่รักและสนับสนุนอยู่เสมอ
นอกจากนี้ แบมแบมยังสอนให้เห็นถึงคุณค่าของ “ความจริงใจ” ไม่ว่าจะในวงการที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน เขาก็ยังคงแสดงความเป็นตัวเอง ยิ้มง่าย และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งเพื่อนร่วมงานและแฟนคลับ นี่คือเหตุผลที่ทำให้เขามีแฟนเหนียวแน่นทั่วโลก การเป็นคนที่จริงใจ ไม่เสแสร้ง และพร้อมแบ่งปันพลังบวก จึงเป็นคุณสมบัติที่ควรเรียนรู้และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ท้ายที่สุด แบมแบมคือแรงบันดาลใจให้คนไทยจำนวนมากเชื่อมั่นว่า “เวทีโลกไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม” ถ้ามีความสามารถ ความมุ่งมั่น และความกล้าที่จะก้าวออกจากกรอบ เขาเป็นตัวอย่างที่พิสูจน์แล้วว่า คนไทยก็สามารถเป็นศิลปินระดับอินเตอร์ที่แฟนเพลงทั่วโลกชื่นชมได้ และบทเรียนนี้คือมรดกทางจิตใจที่แบมแบมได้มอบไว้แก่สังคม
เส้นทางชีวิตของ แบมแบมGOT7 ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของศิลปิน K-Pop แต่คือบทเรียนของการไล่ตามความฝัน การทำงานหนัก และการไม่ยอมแพ้ เขาคือสัญลักษณ์ของศิลปินไทยที่สามารถสร้างชื่อบนเวทีโลกได้อย่างสง่างาม และยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
หากคุณอยากติดตามข่าวเจาะลึกแบบนี้ พร้อมบทวิเคราะห์บันเทิงระดับเข้มข้น อย่าลืมติดตามได้ที่ tuna56 ซึ่งพร้อมนำเสนอทุกมิติของวงการบันเทิงให้คุณไม่พลาดทุกกระแส อ่านข่าว ดารานักแสดง ต่อได้ที่นี้คลิกเลย tuna56 โหน่ง – เส้นทางชีวิตในวงการบันเทิงที่เต็มไปด้วยสีสัน