tidpaknews หลังจากที่้้เมื่อศักราชก่อนได้ผนึกกำลังสร้างตำนานคนเลี้ยงผึ้งเป็นหนังฮิตแบบชวนเซอร์ไพรส์ไปทั่วโลกแล้ว ปีนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งในหนังแอคชันฟอร์มระทึกเรื่องใหม่ “A Working Man นรกหยุดนรก” ที่ยังคงคอนเซ็ปต์และลายเส้นแบบ “เดวิด เอเยอร์” กับ “เจสัน สเตแธม” เอาไว้ได้อย่างชัดเจน ที่จะมาดักคอและโดนใจแฟนหนังบู๊ให้ได้ชวนประทับใจกันอีกครั้งแน่นอน tidpaknews

null

เลวอน ได้ละทิ้งอาชีพเดิมของเขาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสุจริตด้วยการทำงานก่อสร้าง เขาต้องการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นพ่อที่ดีให้กับลูกสาวของเขา แต่เมื่อ เจนนี่ ลูกสาวของเจ้านายเขาหายตัวไป เขาจึงจำเป็นที่จะต้องนำเอาทักษะที่ทำให้เขาเป็นตำนานในโลกแห่งปฏิบัติการลับกลับมาใช้อีกครั้ง โดยการตามหานักศึกษาสาวที่หายตัวไปได้นำเขาไปสู่ใจกลางของแผนการอาชญากรรมอันชั่วร้าย

 ( tidpaknews )

อย่างที่เกริ่นเอาไว้แล้วข้างต้นว่า A Working Man เป็นผลงานการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ เดวิด เอเยอร์ กับ เจสัน สเตแธม หลังจากที่พวกเขาทำให้ The Beekeeper ดังเปรี้ยงมาแล้วในปี 2024 ที่ผ่านมา การกลับมาของพวกเขาครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยความลงตัวและตัวเป๊ะในการลำดับขั้นตอนในการสร้างสรรค์งานแอคชันที่ได้ตัวพ่อมารวมตัวกันในเรื่องนี้ ที่่น่าจะเป็นการตอบโจทย์แฟน ๆ หนังบู๊ได้อย่างจึ้งใจ

null

A Working Man ได้ราชานักแสดงบู๊ “ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน” มารับหน้าที่ออกแบบบทหนังและออกไอเดียพล็อตหนังเรื่องนี้ ร่วมด้วยผู้กำกับที่มาช่วยตบบทหนังให้อีกแรง แน่นอนว่าหนังไม่มีอะไรสดใหม่เลย..สักนิดเดียว เพราะแค่เห็นชื่อลุงซิลเวสเตอร์มาคิดพล็อตเรื่องให้ ก็เผื่อใจไว้บ้างแล้วในจุดด้อยขององค์ประกอบนี้ แต่ในแง่การสร้างสรรค์คอนเทนท์ออกมาให้ดูสนุก และถึงแก่นถึงอารมณ์ของคนดู ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องนี้ยังทำได้ถึงอยู่

โครงสร้างของบทหนัง A Working Man ก็คือกลิ่นอายความเป็นหนังบู๊ยุคของลุงซิลเวสเตอร์นั่นแหละ อารมณ์เหมือนเอาพล็อตเรื่องหนังยุค 80s หรือ 90s มาพัฒนาสร้างใหม่เป็นหนังในยุคปี 2020s ที่วนเวียนอยู่กับความจำเจเดิม ๆ ไมว่าจะเป็น แก๊งคนชั่ว ธุรกิจลึกลับชาวรัสเซีย หรือเป็นการจับตัวประกัน มันเป็นองค์ประกอบของสูตรสำเร็จที่จำเจสุด ๆ ในหนังบู๊ที่เห็นได้ทุกยุคทุกสมัย

null

แต่ถึงบทจะบ้งไปหน่อย ก็ยังได้องค์ประกอบงานสร้างและเทคนิคโปรดักชันมาช่วยประคับประคองตัวหนังเอาไว้ได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่า A Working Man แอบมีมุมกล้องประหลาด ๆ หลุดมาตราฐานออกมาบ้างเล็กน้อย แต่โดยภาพรวมก็ถือว่ายังจัดอยู่ในสแตนดาร์ดงานสร้างยี่ห้อ เดวิด เอเยอร์ ที่เขายังได้ดึงตัวทีมงานคู่บุญกลับมาร่วมงานด้วยกันอีกเช่นเคย ที่ทุกภาคส่วนต่างรู้สไตล์งานเป็นอย่างดี

เจสัน สเตแธม ก็คือไฮไลต์จุดเด่นที่เป็นนายแบกของหนังเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ เพราะหนังเรื่องนี้ก็คือสร้างมาเพื่อให้เขาสวมบทบาทนี้นั่นแหละ บทหนังเกิดมาเพื่อเขา ถึงบทบาทจะยังคงซ้ำ ๆ เดิม ๆ กับที่เขาเคยเล่นเอาไว้ในหนังหลายเรื่องก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม แต่เขาก็รู้หน้าที่ดีว่าคนดูต้องการอยากจะดูและอยากจะเห็นอะไรจากเขา ซึ่งเขาก็สามารถเซอร์วิสให้แฟน ๆ ได้ประทับใจได้เช่นเคย

A Working Man

ถึงแม้ว่าทีมนักแสดงสมทบจะค่อนข้างจืดชืดไปสักหน่อย เพราะแสงไฟจับจ้องอยู่ที่พระเอกคนเดียวแบบจัดจ้าน ก็พลอยทำให้ดาราที่มาเสริม อย่าง “เดวิด ฮาร์เบอร์”, “ไมเคิล เพนา”, “เจสัน เฟลมมิง”, “มาซิมเลียน โอซินสกี” หรือ “อารีอานา รีแวส” แทบจะไม่มีอะไรที่โดดเด่นออกมาเลยสักนิดเดียว พวกเขามาเป็นแค่เพียงส่วนเสริมที่เพิ่มเติมเข้ามาในหนัง เพื่อเติมเต็มหนังให้ดูสมบูรณ์ดีขึ้นเท่านั้น

เอาเป็นว่าถ้าหากว่าคุณเป็นแฟนหนังบู๊ของเจสัน สเตแธม นี่ก็คือคอนเทนท์แอคชันระทึกขวัญที่น่าจะตอบโจทย์แฟน ๆ ได้เป็นอย่างดีเหมือนเคย ถึงจะเป็นหนังที่เต็มไปด้วยบาดแผลและร่องรอยที่เหวอะหวะเต็มไปหมดก็ตาม แต่ก็ยังสอดแทรกความสนุกความบันเทิงเอาไว้ได้ถึงแก่นด้วยดี แม้ว่าจะไม่ได้รับอะไรที่แปลกใหม่เลยก็ตาม แต่มันก็เป็นหนังที่ดูได้เพลิน ๆ ดูได้เรื่อย ๆ ดูแบบไม่คิดอะไรก็สนุกอยู่นะ